มะขามเทศ

มะขามเทศ

ชื่ออื่นๆ : -

ชื่อวงศ์ : MIMOSACEAE

ชื่อสามัญ : Manila Tamarind

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pituhecellobium dulce (Roxb.)Benth

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

ต้น- ไม้ยืนต้นตระกลูถั่ว ขนาดกลาง สูง 10 ม.

ใบ คล้ายขนนก ใบย่อยแตกงอกจาด้านใบ 2 ข้าง ก้านใบใหญ่ ยาว 1-2.5 ซม .ออกเป็นคู่ ตรงกันข้ามใบรูปไข่ หรือรูปหอก

ดอก ออกเป็นช่อ เป็นกลุ่มย่อย ออกตามปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 15-20 ดอก ลักษณะรูปกรวย ขนาดเล็ก

ผล เป็นฝักรูปโค้งกลม หรือครึ่งวงกลม บริเวณที่มีเมล็ดจะโค้งนูน เนื้อหนา เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 ซม.กว้าง 1 ซม. สีน้ำตาล

เมล็ด รูปโค้งสีดำเข้ม ยาว 9 ซม. กว้าง 1 ซม.

 

การนำไปใช้ประโยชน์ : ทางอาหาร เนื้อหุ้มเมล็ดใช้แกงส้ม บริโภคสด หรือตำ เนื้อหุ้มเมล็ดสีขาว ใช้รับประทานสดมีรสหวาน

การขยายพันธุ์ : เมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำราก

การปลูกและการดูแล : การปลูก มี 2 แบบคือ 1.ปลูกแบบยกร่องโดยยกร่องกว้างประมาณ 6 เมตร ยาว 100 เมตร ระยะปลูก 6×8 เมตร 2.ปลูกแบบพื้นที่ราบใช้ระยะปลูก 10×10 เมตร การดูแล การใส่ปุ๋ย หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือตัดแต่งกิ่งแล้วให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และปุ๋ยคอกเพื่อกระตุ้นให้ต้นเจริญเติบโต จากนั้นประมาณเดือนตุลาคมเริ่มใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนต่ำและธาตุฟอสฟอรัสสูง เช่น สูตร 12-24-12 หรือสูตร 8-24-24 เพื่อกระตุ้นการออกดอกหลังจากมะขามเทศติดฝักแล้ว ควรใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 เพื่อให้ฝักมะขามเทศมีรสชาติหวานมากขึ้น การให้น้ำ มะขามเทศต้องการน้ำมากๆแต่ไม่ใช่น้ำขังระยะการแทงช่อดอกควรงดให้น้ำชั่วคราวต่อจากนั้นให้น้ำ 7 วัน ต่อครั้ง ในระยะติดฝักถ้าหากขาดน้ำจะทำให้ฝักเล็กซึ่งเป็นสาเหตุให้โรคแมลงมาทำลายฝักมะขามเทศและยังทำให้ผลผลิตลดลงอีกด้วยในทางตรงกันข้ามหากให้น้ำมากเกินไปจะทำให้คุณภาพของฝักไม่ดีฝักจะแตกเร็วกว่าปกติ

สรรพคุณ

ราก ชะล้างบาดแผล แก้ท้องร่วง กระชับโลหิตและน้ำเหลือง

เปลือกต้น ฆ่าพยาธิ ชะล้างบาดแผล สมานแผล แก้ท้องร่วงท้องเสีย แก้ปวดฟัน

ฝัก รับทานมากทำให้เป็นบิดมูกเลือด

ไม่ระบุส่วนที่ใช้ ห้ามโลหิต ชะล้างบาดแผล แก้ท้องร่วง แก้คัดจมูก แน่นจมูก

Tags: การขยายพันธุ์, การนำไปใช้ประโยชน์, การปลูก, ชื่อวิทย์, ลักษณะพฤกษศาสตร์, สรรพคุณ

Category: พืชสมุนไพร, พืชสมุนไพร บ-ม