banner ad

การจัดสวนแนวต้ัง

ปัจจุบันด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ หรือ รูปแบบการอยู่อาศัยของคนเมืองเปลี่ยนไปจากเดิมจากบ้านเดี่ยว เป็นทาวน์เฮาส์ หรือ คอนโดมิเนียม จึงทำให้แนวคิดการจัดสวนแนวตั้งได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมนุษย์ยังคงต้องการมีพื้นที่สีเขียวซึ่งจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากภาระหน้าที่การทำงานหรือแม้แต่ในสถานที่ทำงาน การจัดสวนแนวตั้ง จึงได้เข้ามามีส่วนในการสร้างสรรค์สวนและเป็นทางเลือกในการจัดสวนมากขึ้น การจัดสวนแนวตั้งไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัวแต่ขึ้นอยู่กับการจัดสภาพต่างๆได้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง วัสดุปลูก การเลือกพรรณไม้ การดูแลรักษา ดังนั้นหากผู้ที่ต้องการจัดสวนทางเลือกนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้และเข้าใจสภาพที่เหมาะสมกับสวนดังกล่าว พรรณไม้ที่ใช้จัดสวนแนวตั้งมีดังต่อไปนี้

1. กนกนารี เมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้ง ควรปลูกอยู่ระดับกลางหรือล่างของแผงสวนเพื่อให้ได้รับแสงรำไรและความชื้นสูง

2. ก้ามปูหลุด เหมาะปลูกแซมกับพรรไม้ขนาดใหญ่ใบสีเขียวในสวนแนวตั้ง

3. เกล็ดปลาช่อน นิยมปลูกคลุมโคนพรรณไม้ขนาดใหญ่เพื่อปกปิดผิวดินหรือรอยต่อระหว่างแผงให้ดูสวยงามขึ้น

4. ไก่แดง ว่านไก่แดง ว่านไก่โต้ง วางตำแหน่งปลูกให้อยู่ในระดับกลางของแผงเพื่อให้ต้นได้รับแสงอย่างเพียงพอ วัสดุปลูกไม่แฉะ ต้นจะห้อยย้อยดูสวยงาม

5. ตานลาย นมเมียหิน เอื้องข้าวก่ำ ชอบวัสดุโปร่ง ต้องการแสงแดดรำไร

6. คาวตอง พลูคาว ปลูกเป็นไม้คลุมดินริมน้ำหรือปลูกเป็นไม้กระถาง กรณีปลูกบนแผงควรปลูกในระดับล่างซึ่งดินสะสมความชื้นไว้มาก แต่ต้องได้รับแสงแดดเพียงพอ

7. เคราฤาษี แขวนเคราฤาษีในบริเวณที่ได้รับแสงเต็มวัน มีลมพัดผ่าน ให้ปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำเจือจางเดือนละครั้ง

8. โคลงเคลงเลื้อย ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง ถ้าปลูกบริเวณร่มเกินไป ลำต้นจะยืดยาวและออกดอกน้อย ควรตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ แล้วนำไปขยายพันธุ์

9. ซุ้มกระต่ายเขียว เศรษฐีเรือนแก้ว ให้ดินปลูกชุ่มชื้นเสมอ ถ้าอากาศแห้งแล้ง ปลายใบมักแห้งกรอบได้ง่าย ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ แผ่นใบที่โค้งอ่อนลงจะช่วยสร้างเส้นสายที่ดูอ่อนพลิ้วมากขึ้น

10. ซุ้มกระต่ายด่าง เศรษฐีไซ่ง่อน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ นิยมปลูกคลุมดินหรือปลูกเป็นไม้กระถาง เมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้งจะให้เส้นสายที่อ่อนช้อยและเพิ่มสีให้สวนดูสว่างขึ้น

11. ดาวลดา ไดโนซอรัส ไดโนเสาร์ ชอบดินร่วน แสงแดดรำไรถึงจัด โตเร็ว ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดแและปักกิ่งชำ

12. ดีปลี ขยายพันธุ์โดยการปักชำ เหมาะให้เลื้อยเกาะกำแพงหรือโครงสร้างที่ต้ังในบริเวณที่รับแสงน้อย

13. เดปใบรี ปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือเลื้อยเกาะตามกิ่งก้านของไม้ใหญ่ ขยายพันธุ์โดยการปักชำ

14. เดปหัวใจล้านดวง ต้องการแสงรำไร ปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือปลูกบนแผงสวนแนวตั้งในบริเวณที่ได้รับแสงรำไรและความชื้นสูง

15. ตีนตุ๊กแก ปลูกเป็นไม้เลื้อยเกาะผนังหรือประดับตามแนวรั้ว หรือแนวกำแพง ปัจจุบันมีตีนตุ๊กแกใบด่างนำเข้ามาปลูกเป็นไม้กระถาง ลักษณะใบเล็กกว่าชนิดแท้ มีแถบสีขาวตรงขอบใบ แผ่นใบบาง ขอบหยักเป็นคลื่น

16. ทิลแอนด์เซีย นำมาเกาะขอนไม้ ชอบแดดจัดถึงครึ่งวันเช้า ความชื้นในอากาศสูง น้ำปานกลาง อากาศถ่ายเทดี มักออกดอกให้ชมในช่วงฤดูหนาว ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและแยกหน่อ

17. นกกระทา ชอบดินร่วน แสงแดดรำไร น้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง หากได้รับแสงแดดจัดขอบใบจะไหม้ โตเร็ว ควรตัดแต่งยอดที่ยืดยาวออก จะช่วยให้สวนแนวตั้งสวยอยู่เสมอ

18. บีโกเนีย ปลูกในวัสดุที่อุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี เหมาะอากาศเย็น ควรได้รับปุ๋ยทุก 2 สัปดาห์ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำใบและลำต้น แยกหัว และเพาะเมล็ด ถ้าปลูกบนแผงสวนแนวตั้ง ในช่วงฤดูฝนควรหมั่นฉีดสารป้องกันกำจัดเชื้อราอยู่เสมอ เพื่อป้องกันโรคเน่า

19. ป็อปอาย ชอบแสงแดดจัดถึงรำไร อากาศเย็นกิ่งก้านจะมีสีแดง รดน้ำสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เหี่ยวเฉา ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับมาแต่โบราณ เพราะเชื่อว่าเมื่อต้นออกดอกจะมีโชคลาภ

20. ปีกแมลงสาบแดง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง นิยมปลูกบนสวนแนวตั้ง เพราะลำต้นที่ทอดเลื้อยช่วยสร้างเส้นสายที่อ่อนช้อย

21. ปีกแมลงสาบใบแหลม ใบสีเขียวเทา มีลายสีน้ำตาลเข้มตามเส้นใบ เมื่อลำต้นยาว ควรตัดแต่งกิ่งบ้างเพื่อให้แตกใบใหม่เป็นพุ่มแล้วนำกิ่งที่ได้ไปขยายพันธุ์

22. เปเปอโรเมียใบป้าน ชอบดินร่วน แสงแดดเต็มวันถึงร่มรำไร น้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำยอด

23. ผกากรองเลื้อย ชอบดินร่วน แสงแดดเต็มวัน โตเร็ว ควรตัดแต่งเป็นระยะ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง เมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้งควรเลือกผกากรองที่เจริญเติบโตช้า เช่น ผกากรองเลื้อยสีม่วง

24. พรมกำมะหยี่ ชอบแสงแดดครึ่งวันเช้าถึงรำไร ความชื้นในอากาศสูง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำไหล ปักชำยอด และเพาะเมล็ด ชอบบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ควรปลูกระดับกลางของแผงสวนแนวตั้งที่ไม่แฉะมากนัก จะช่วยให้ต้นไม่เน่าตาย

25. พรมออสเตรเลีย ชอบดินร่วนปนทรายผสมใบไม้ผุ แสงแดดรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง ควรปลูกอยู่ระดับกลางหรือล่างของแผงสวนแนวตั้งจะได้รับน้ำและแสงเหมาะสมกับการเจริญเติบโต

26. พลูฉลุ ชอบแสงรำไร เลื้อยง่ายและทนทาน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำยอด เหมาะปลูกระดับล่างของสวนแนวตั้งที่ชุ่มชื้น จะเติบโตได้ดี

27. พลูด่าง เติบโตได้ในดินทุกชนิดหรือปลูกในน้ำ ชอบแสงรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำยอด ปัจจุบันมีพันธุ์ใบด่างเรียกว่าพลูราชินีหินอ่อน มีลายด่างสีขาวมากกว่าพลูด่างปกติ

28. พลูนางฟ้า นางฟ้าจำแลง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง โดยตัดเป็นข้อให้มีใบติดอยู่อย่างน้อย 2 ใบ แล้วปักชำในขุยมะพร้าวที่ชุ่มชื้น

29. พลูลงยา ชอบดินร่วนระบายน้ำดี โตช้า แสงแดดรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง

30. ฟิโลเดนดรอนสีทอง ปลูกลงกระถางให้เกาะพันเหล็กเพื่อประดับในที่ร่มรำไร ไม่ควรถูกแสงแดดจัดตรงๆ เพราะจะทำให้ใบไหม้ หากปลูกในสวนแนวตั้ง ควรปลูกในระดับล่างที่ชุ่มชื้น เติบโตได้ดี

31. เฟินข้าหลวงหลังลาย ชอบแสงแดดรำไร ความชื้นสูง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะสปอร์

32. เฟินเงิน ชอบวัสดุปลูกร่วนโปร่ง ความชื้นในอากาศสูง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะสปอร์และแยกกอ เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกประดับในที่ร่มชื้นจะทำให้บรรยากาศของสวนเมืองร้อนได้ดี เมื่อนำมาใช้จัดสวนแนวตั้ง ควรปลูกให้อยู่ระดับกลางของสวนที่ไม่แฉะมากนัก ใต้ร่มเงาของพืชชนิดอื่น

banner ad

Hit Counter provided by technology news