GAP มะขามแขก
GAP มะขามแขก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Senna alexandrina Mill.
ชื่อสามัญ Indian Senna, Tinnevelly Senna, Alexandria senna
ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE
ชื่ออื่น -
1. ลักษณะของพืช
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 0.60-1.5 เมตร ใบเป็นช่อแบบขนนก มีใบย่อย 3-7 คู่ ใบย่อยรูปรีหรือรูปหอก โคนใบสอบแคบหรือมน ปลายใบแหลมขอบใบเรียบ มีขนาดกว้าง 0.5-1.5 เซนติเมตร ยาว 2.5-5.0 เซนติเมตร ก้านใบย่อยสั้นมาก ดอกสีเหลืองออกเป็นช่อ ใบประกอบแบบขนนก ก้านใบหลักออกเรียงสลับใบย่อยออกตรงกันข้ามเป็นคู่ๆ 8-9 คู่ มีลักษณะใบรียาวแยกออกเป็นรูปเข็ม ฐานใบไม่สมมาตร ไม่ค่อยมีขนปกคลุม ใบมีเนื้อคล้ายหนัง มีสีเขียว มีหรือไม่มีเส้นใบเห็นชัด ผลเป็นฝักแบนๆ โค้งงอเล็กน้อย มีสีเขียว แต่พอแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภายในมีเมล็ด 6-12 เมล็ด กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนติเมตร
2. สภาพพื้นที่ปลูก
- ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน ทนต่อความแห้งแล้งได้พอสมควร
- เจริญเติบโตได้ในดินทุกสภาพ ชอบดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุพอสมควร
- ชอบความชุ่มชื้นปานกลาง ไม่ชอบน้ำท่วมขัง
- ปลูกได้กลางแจ้ง เป็นพืชที่ไวต่อแสง
3. พันธุ์
3.1 การเลือกพันธุ์
1.เลือกพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง
2.เป็นพันธุ์ที่ถูกต้องตรงตามความต้องการปลูก
3. เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง
3.2 พันธุ์ที่นิยมปลูก : พันธุ์ดั้งเดิมจากที่มาจากอินเดีย และปัจจุบันเป็นพันธุ์ปลูกที่ จ.ลพบุรี
4. การปลูก
4.1 การเตรียมดิน : พื้นที่ลาดเอียงเล็กน้อย ให้ไถพรวนและปลูกได้ทันที แต่ในพื้นที่ราบ ให้ไถพรวนแล้วหว่านปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 100-200 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบ ยกร่องแบบสามเหลี่ยม ควรย่อยดินให้ละเอียดก่อนหยอดเมล็ด
4.2 การเตรียมพันธุ์ : เลือกเมล็ดที่มีความสมบูรณ์ ไม่มีโรคและแมลงเข้าทำลาย
4.3 วิธีการปลูก : ปลูกโดยหยอดเมล็ดลงหลุมๆ ละ 2-3 เมล็ด ถ้าดินแห้งมากควรรดน้ำให้ชุ่มทิ้งไว้ 1 วัน พอดินหมาดจึงหยอดเมล็ด มีระยะระหว่างต้น50 ซม.และระยะระหว่างแถว 1-1.2 เมตรกลบเมล็ดด้วยดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม ต้นอ่อนจะงอกประมาณ 3-4 วัน
- ฤดูปลูก ควรปลูกในช่วงปลายฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคม
- เมล็ดพันธ์ที่ใช้ปลูกประมาณ 1 กิโลกรัมต่อไร่
- มะขามแขกเป็นพืชที่มีอายุสั้นเพียง 1-2 ปี จึงจำเป็นต้องปลูกทดแทนต้นเก่าที่โทรมทุกปี
5. การดูแลรักษา
5.1 การให้น้ำ มะขามแขกต้องการน้ำในระยะ 1 เดือนแรกเท่านั้น จึงต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ
5.2 การใส่ปุ๋ย หลังจากงอกแล้วประมาณ 30 วัน ถ้าใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักใส่อัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ ระหว่างแถว
5.3 การกำจัดวัชพืช ดายหญ้าบริเวณรอบโคนต้น แล้วพูนดินกลบโคนให้ร่องสูงขึ้น เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี
5.4 โรคและแมลง
โรคที่สำคัญและการป้องกันกำจัด -
แมลงที่สำคัญ
1. ด้วงปีกแข็งสีดำ ทำลายช่อดอก ฝัก และใบอ่อนในเวลากลางคืน ป้องกันกำจัดโดยนำส่วนที่เข้าทำลาย ไข่และตัวของแมลง ไปเผาทำลาย
2. หนอนเขียวข้างเหลือง จะกัดกินยอดอ่อนและดอก
3. หนอนเจาะลำต้น ต้นจะมีอาการเหี่ยวที่ยอด และลำต้นเหนือรอยเจาะ
การป้องกันกำจัด
1. กำจัดหนอน และไข่ของแมลง ออกจากส่วนของต้นพืช
2. ถอนต้นที่แมลงเข้าทำลาย นำออกนอกแปลง และเผาทำลายทิ้ง
6. การเก็บเกี่ยว
6.1 ระยะเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม :
การเก็บเกี่ยวใบ เริ่มเก็บเกี่ยวใบเมื่ออายุ 45-60 วัน
การเก็บเกี่ยวฝัก เก็บเกี่ยวหลังจากติดฝัก 21-23 วัน ฝักจะมีสีเขียวปนน้ำตาล
6.2 วิธีการเก็บเกี่ยว : โดยตัดยอดเหนือใบแก่ รูดเอาแต่ใบย่อย การตัดใบควรทำ 3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 20 วัน จากนั้นปล่อยให้ออกดอกเพื่อเก็บฝัก โดยฝักเก็บระยะที่เริ่มมีเมล็ดใสๆ
7.การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
7.1 การแปรรูปหลังการเก็บเกี่ยว : ผึ่งใบที่เก็บเกี่ยวในที่ร่มประมาณ 2-4 วัน นำไปผึ่งแดดอีกครั้งประมาณ 1 วัน เพื่อให้แห้งสนิท หรืออบที่อุณหภูมิ 55-60 องศาเซลเซียสนาน 8-12 ชั่วโมง สำหรับฝัก แล้วนำมาผึ่งแดด นาน 4 ชั่วโมง และนำไปผึ่งลมจนแห้งสนิท
7.2 การเก็บรักษา : บรรจุในภาชนะที่สะอาด และปิดฝาให้สนิท ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 1 ปี เพราะปริมาณสารสำคัญจะลดลง
7.3 การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ : เก็บเมล็ดที่แก่จัด จากฝักที่เก็บก่อนจะแตกอ้า หรือเมล็ดหลุดร่วงลงพื้นดิน เพื่อให้ได้เมล็ดที่สะอาดเก็บไว้ทำพันธุ์ และนำมาคัดเลือกเมล็ดที่สมบูรณ์ ไม่เล็กลีบ และผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด และเย็น
8. สุขลักษณะและความสะอาด
- ควรรักษาแปลงปลูกสมุนไพรให้ถูกสุขลักษณะและสะอาดอยู่เสมอ
- กำจัดวัชพืช เพื่อไม่ให้แข่งขันกับพืชหลัก หรือเป็นแหล่งเพาะศัตรูพืชซึ่งอาจติดไปกับผลผลิต
- หลังการตัดแต่ง ควรนำเศษพืชไปทิ้งนอกแปลง หรือทำลายเสีย
- หลังการพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้เผากำจัดวัสดุเหลือใช้ และกำจัดภาชนะบรรจุให้ถูกวิธี
- เก็บรักษาวัสดุทางการเกษตร เช่น ปุ๋ย สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการทำการเกษตรกรรมให้เรียบร้อยปลอดภัย อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
9. การบันทึกข้อมูล
ในการผลิตเกษตรดีที่เหมาะสมของมะขามแขก ควรมีการบันทึกข้อมูลการปฏิบัติในขั้นตอนการผลิตต่างๆ เพื่อสามารถนำไปใช้ในการตรวจสอบวิธีการผลิตได้โดยเฉพาะการนำไปใช้เป็นวัตถุดิบคือสารออกฤทธิ์ ดังนั้นการบันทึกข้อมูลจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการผลิตวัตถุดิบให้ได้สารออกฤทธิ์ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานและหากมีข้อผิดพลาดหรือบกพร่องเกิดขึ้น จะได้สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงวิธีการผลิตได้ทันทีรายละเอียดที่ควรบันทึกได้แก่
1. บันทึกขั้นตอนการผลิต เช่น รายละเอียดการใส่ปุ๋ย ให้น้ำ การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะปุ๋ยซึ่งมีผลต่อปริมาณสารสำคัญ และสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งหากมีสารพิษตกค้างจะทำให้คุณภาพของสมุนไพรไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
2. บันทึก วันปลูก วันออกดอก วันเก็บเกี่ยว การเก็บเกี่ยว วิธีการบรรจุ การขนส่ง และชื่อผู้ปฏิบัติงาน ฯลฯ เพื่อใช้ตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบสมุนไพร เช่น ถ้าเก็บเกี่ยวในช่วงเวลา/อายุ ที่ไม่เหมาะสมจะมีผลทำให้คุณภาพต่ำ ข้อมูลที่บันทึกไว้จะสามารถนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขวิธีการผลิตให้ได้วัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพดีตามมาตรฐาน
3. บันทึก วัน เดือน ปี และวิธีการปฏิบัติงานเพื่อใช้ตรวจสอบ และวางแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหา
Category: GAP