กะเพราเขียว
กะเพราเขียว
ชื่ออื่นๆ : กะเพราแกง กะเพราขาว ก่ำก้อขาว ก่ำก้อดำ กอมก้อดำ ห่อตูปลา ห่อกวอซู
ชื่อวงศ์ : LABIATAE
ชื่อสามัญ : Holy Basil, Sacred Basil
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum tenuiforum L.
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้ล้มลุกมีกิ่งก้านและขนปกคลุมมาก ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสีเขียวกันเป็นคู่ๆ รูปรี ปลายใบแปลม หรือมน ขอบใบหยักแบบพันเลื่อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกติดรอบแกนช่อเป็นระยะๆ กลีบมนเกือบกลมบานวกกลับไปทางด้านหลัง กลีบล่างยาวกว่ากลีบบน มี 4 หยัก รูปหอก ผลแห้งขนาดเล็ด 4 ผล อยู่ด้วยกัน รูปรี
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด และปักชำ
การปลูกและการดูแล : การปลูก กระเพราเขียวปลูกง่ายในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนซุย ควรปลูกต้นฤดูฝน การดูแล ปล่อยให้เจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องบำรุงรักษาแต่อย่าง
ดัชนีการเก็บเกี่ยว
อายุเก็บเกี่ยว 30-35 วันหลังปลูก โดยตัดลำต้นหรือกิ่งห่างจากยอดลงมาประมาณ 10-15 เซนติเมตร (กรณีที่ยัง ไม่มีผู้รับซื้อ เกษตรกรสามารถชะลอการเก็บเกี่ยวออกไปได้โดยการเด็ดยอดที่มีดอก ทิ้ง) หลังจากตัดลำต้นแล้วกะเพราจะแตกยอดและกิ่งก้านออกมาใหม่ การเก็บเกี่ยวสามารถทำได้ทุก 15 วัน ไปตลอดระยะเวลา 7-8 เดือน หลังจากนั้นผลผลิตจะลด ลงเรื่อยๆ จึงควรทำการถอนทิ้งเพื่อปลูกใหม่
การเก็บรักษา เก็บที่อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส นาน 14 วัน ที่ความชื้นสัมพัทธ์ 95-100%
ที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 4 วัน ถ้าเก็บรักษาเป็นเวลานานขึ้น กะเพราจะแสดงอาการสะท้านหนาว ใบจะเกิดจุดสีน้ำตาลเป็น จุดฉ่ำน้ำ ใบร่วง เนื้อเยื่อตาย และเน่าเสีย
เก็บถุงโพลีโพรพิลีนเจาะรู ที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 9 วัน
เุก็บด้วยถุงโพลีโพรพิลีนเจาะรู ที่อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 14 วัน
เุก็บด้วยถุงโลวเดนซิตี้โพลีเอทธิลีนที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 9 วัน
เก็บด้วยถุงโลวเดนซิตี้โพลีเอทธิลีนและมีตัวดูดซับเอทธิลีนที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 12 วัน
สรรพคุณ : ใบสด มีน้ำมันหอมระเหย เช่น Eugenol Linalool ใช้แต่งกลิ่นอาหาร ขับลม แก้ อาการท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน
โดย สัจจะ ประสงค์ทรัพย์
Satja Prasongsap (Research Scientist)
Horticultural Research Institute
Category: พืชผัก, พืชสมุนไพร, พืชเครื่องเทศ