banner ad

โหระพา

| January 2, 2013 | 0 Comments

โหระพา

ชื่ออื่นๆ : โหระพาไทย โหระพาเทศ ห่อกวยซวย ห่อวอซู กอมก้อ นางพญาร้อยชู้อิ่มคิมขาว

ชื่อวงศ์: LABIATAE

ชื่อสามัญ: Common Basil, Sweet Basil

ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum basilicum L.

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : พืชล้มลุกขนาดเล็ก สูง 2 ฟุต ลำต้นกิ่งก้านเป็นสี่เหลี่ยมสีม่วงหรือแดงเข้ม ใบเดี่ยวรูปหอกปลายโคนแหลม สีเขียว ดอกสีขาวเป็นช่อ แท่งตั้งตรงออกที่ปลายกิ่ง เมล็ดเท่าเมล็ดงาสีน้ำตาลเข้ม

การนำไปใช้ประโยชน์ : ทางอาหาร ใบใช้ปรุงอาหารช่วยแต่งกลิ่น ใส่ในแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ผัดต่างๆ รับประทานสด เคียงกับลาบ น้ำตก ทางยา ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกิน แก้ปวด แก้หวัด ท้องเสีย เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับลม ปวดศีรษะ ปวดข้อ หนองใน ใบสดตำให้ละเอียดคั้นน้ำทาหรือพอกแผลฟกช้ำ แผลเป็นหนองเรื้อรัง แก้พิษถูกงูกัด แมลงสัตว์กัดต่อย เมล็ดแห้งต้มหรือแช่น้ำกิน เป็นยาระบาย แก้โรคตาแดง รากสดหรือแห้งเผาไฟเป็นเถ้าบดละเอียดใช้พอกแผลเรื้อรัง

การขยายพันธุ์ : ปักชำ และเพาะเมล็ด

การปลูกและการดูแล :การใช้เมล็ดพันธุ์ในการปลูกให้เอาเมล็ดพันธุ์แช่น้ำไว้ 1 คืน เตรียมดินร่วนปนทรายเล็กน้อย ผสมปุ๋ยคอกใส่ดินในถ้วยกระดาษเล็กๆหรือกระบะ พลาสติกแบนๆ ที่มีพื้นเป็นตระแกรงระบายน้ำได้ดีมีความลึกประมาณให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์รองพื้นก่อนประมาณ 3-4 ชั้น ใส่ดินผสมสำเร็จรูปผสมขุยมะพร้าวหนาประมาณ 4 ซม. จากนั้นจึงเอาเมล็ด (กระเพราเขียว,โหระพา) ที่แช่น้ำค้างคืนไว้หยอดลงไป 3-4 เมล็ด ต่อ 1 ถ้วย ถ้าในกระบะหยอดหลุมละ 2-3เมล็ด ให้ห่างกันประมาณ 8×8 ซม. รดน้ำเช้าเย็น ตั้งไว้ในที่รับแสงรำไร เมื่อต้นงอกขึ้นมาแล้วให้ถอนต้นที่อ่อนแอออกเหลือเพียงหลุมละ 2 ต้น จากนั้นเลี้ยงให้โตประมาณ 20 วัน ก็นำออกมาจากถ้วยหรือกระบะปลูกลงแปลงหรือกระถางที่เตรียมดินไว้ ดินที่ใช้ควรผสมปุ๋ยคอกและแกลบเพื่อความร่วนซุยและอุดมสมบูรณ์ การปลูกด้วยวิธีการปักชำกระเพราเขียว,โหระพา) ที่ไม่แก้หรืออ่อนจนเกินไปยาวประมาณ 4 ซม. เด็ดใบออกนำไปปรุงเป็นอาหารให้เหลือเพียงยอด เล็กๆ ที่ติดอยู่ปลายก้านปลูก ปักให้เอียงเล็กน้อยประมาณ 45 องศาไปในดินที่เตรียมไว้อาจเป็นกระถางหรือแปลงปลูก เพื่อลดแรงต้านจาการโยกของลมประมาณ 1 สัปดาห์ ต้นก็จะตั้งตัวได้จึงนำออกผึ่งแดดอ่อน หรือถ้าเป็นแปลงปลูก ก็เอาใบบังไพรที่พรางแสงออกได้ การดูแล ควรพรวนดินใส่ปุ๋ยคอกทุกๆ 2 เดือน ถ้าต้องการให้แตกใบสวยเสมอ ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งก้านและดอกออกแต่ต้องระวังมดคันไฟที่ชอบขึ้นต้น ถ้าปลูกในกระถางให้ป้องกันโดยวิธีหล่อน้ำโดยใช้ภาชนะที่มีลักษณะแบนที่เก็บน้ำได้ดีวางรองใต้กระถาง แล้วเติมน้ำลงในกระถางภาชนะให้เกือบเต็ม หรือปลูกในแปลงให้หมั่นทำคามสะอาดแปลงปลูกและโรยปูนขาวรอบโคนต้น หลังจากปลูกได้ 70 วัน ก็เก็บใบมารับประทานได้การเก็บควรใช้มีดบางเล็กๆที่มีความคมเฉือนที่ก้านพร้อมกับตัดแต่งกิ่งแก่ที่ออกเพื่อให้กิ่งใหม่เจริญเติบโตขึ้นมาแทนที่

ดัชนีการเก็บเกี่ยว 

อายุเก็บเกี่ยว 30-35 วัน  ตัดต้นหรือกิ่ง ห่างจากยอดลงมาประมาณ 10-15 เซนติเมตร การชะลอการเก็บเกี่ยวได้ โดยการตัดช่อดอกออก โหระพาก็จะแตกกิ่งแตกใบออกมาอีกเรื่อยๆ การเก็บเกี่ยวสามารถทำได้ทุกๆ 15-20 วัน ไปจนถึงอายุ 7-8 เดือน

การเก็บรักษา  เก็บที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส นาน 14 วัน ที่ความชื้นสัมพัทธ์ 95-100%

ที่อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 30 วัน ถ้าเก็บรักษาเป็นเวลานานขึ้นจะแสดงอาการสะท้านหนาว ใบจะเกิดจุดสีน้ำตาลเป็น จุดฉ่ำน้ำ ใบร่วง เนื้อเยื่อตาย และเน่าเสีย
เก็บถุงโถุงโพลีเอทธิลีน (polyethylene) ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ระยะเวลาเก็บรักษา 14 วัน

สรรพคุณ

ลำต้น ใช้ลำต้นสด ประมาณ 6-10 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ปวด แก้หวัด ปวดกระเพาะอาหาร ท้องเสีย จุกเสียดแน่นท้อง ทำให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับลม ปวดศีรษะ ปวดข้อ หนองใน หรือใช้ตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทา หรือใช้พอกแผลฟกช้ำจากการหกล้ม หรือถูกกระทบกระแทก แผลที่เป็นหนองเรื้อรัง แก้พิษถูกงูกัด แมลงสัตว์กัดต่อย เป็นกลากเกลื้อน และใช้หยอดหูแก้ปวดหู

เมล็ด ใช้เมล็ดแห้ง นำมาต้มหรือแช่น้ำกิน เป็นยาระบาย หรือใช้แก้โรคตาแดงมีขี้ตามาก และต้อตา เป็นต้น

ราก ใช้รากสดหรือแห้ง นำมาเผาไฟให้เป็นเถ้า บดให้ละเอียดใช้พอก บริเวณที่เป็นแผลเรื้อรัง แผลมีหนองในเด็ก

ใบ ขับลมในลำไส้ ขับเสมหะ รักษากลากเกลื้อน แก้ไอ แก้สะอึก แก้ระคายเคืองในคอ แก้ลมวิงเวียน ขับเหงื่อ แก้ปวด แก้หูตึง

Tags: , , , , ,

Category: พืชผัก, พืชสมุนไพร, พืชสมุนไพร ย-ฮ

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.

banner ad

Hit Counter provided by technology news