สะตอ
สะตอ
ชื่อสามัญ Stink bean
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Parkia speciosa Hassk.
วงศ์ Mimosaceae
สะตอไม้ยืนต้น รสชาติดีมีเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถปรุงอาหารได้หลากหลาย และมีการนำมาแปรรูปแช่แข็งเพื่อส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งมีปริมาณความต้องการผลผลิตสะตอปีละ 20-30 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 15-20 ล้านบาท คุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วย โปรตีน 8.0 กรัม ไขมัน 8.1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 11.4 กรัม แคลเซียม 76.0 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 83.0 มิลลิกรัม เหล็ก 0.7 มิลลิกรัม เมื่อเทียบกับเมล็ดสะตอ 100.0 กรัม ปี 2565 มีพื้นที่ปลูก 31,879 ไร่ ผลผลิตรวม 11,705 ตัน การจำหน่ายในประเทศ ราคาขาย ฝักสด 10- 20 บาทต่อฝัก เมล็ดสดแช่เย็น ราคา 250-350 บาทต่อกิโลกรัม มีการส่งออกไป มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ โดยเมล็ดแช่แข็งมีมุลค่า 15-20 ล้านบาท ส่วนเมล็ดสดแช่เย็น 1,000 ตันต่อปี มูลค่า 262 ล้านบาทต่อปี
การปลูก ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น x แถว เท่ากับ 8 x 8 หรือ 8 x 9 หรือ 9 x 9 เมตร การค้ำกิ่ง
พันธุ์ : พันธุ์พื้นเมือง
พันธุ์ตรัง 1 มีเมล็ด 15 เมล็ดต่อฝัก เมล็ดเรียงชิดกัน มีกลิ่นน้อย ที่อายุ 10 ปี ให้ผลผลิต 153 ฝัก นอกฤดูให้ผลผลิต 55 ฝัก
สะตอพันธุ์ ตง 10 ให้ผลผลิตเร็วกว่าพื้นเมือง 4 ปี หลังปลูก ทรงพุ่มเตี้ย 4-5 เมตร ให้ผลผลิต มิย.-กย และ มค.-มีค รสชาติหวานมัน กลิ่นฉุนน้อย ความหวาน 4.51 ความมัน 3.93 กลิ่น 3.80 ที่อายุ 10 ปี ให้ผลผลิตในฤดู 53 ฝัก นอกฤดู 53 ฝัก
การขยายพันธุ์ การเพาะแมล็ดและการติดตา การเจริญเติบโตในระยะแรกมีลักษณะเอนเอียงไปด้านข้างใดข้างหนึ่ง ดังนั้นต้องใช้หลักค้ำกิ่งช่วยให้ตั้งตรงเพื่อให้การเจริญเติบโตขึ้นตรง
การตัดยอดและจัดทรงพุ่ม เมื่อต้นสะตอสูง 1.3 – 1.5 เมตร (5 – 6 เดือนหลังปลูก) ตัดยอดที่ความสูง 0.8 – 1.0 เมตร เพื่อให้มีการแตกกิ่ง แขนง เลือกไว้กิ่งแขนงทุกทิศทางใหมความสมดุลกัน 4 – 5 กิ่ง เพื่อให้เจริญเติบโตเป็นกิ่งหลักของสะตอ และเพื่อให้ผลผลิตมีทรงพุ่ม สมดุลกันทุกด้าน
การปฏิบัติดูแลรักษา
การให้น้ำ ในระยะแรกรดน้ำ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์
การใส่ปุ๋ย ระยะก่อนการให้ผลผลิต อายุ 1 – 3 ปีหลังปลูก ใส่ปุ๋ยสตร 15-15-15 อัตรา 200 – 400 กรัมต่อต้นต่อปี โดยแบ่งใส่ 2 ครั้งต่อปี
ศัตรูพืช
หนอนเจาะฝักสะตอ ปลวก และหนอนชอนเปลือก (หนอนชอน เปลือกขนาดใหญ่ C. cossus. และหนอนชอนเปลือกชนิดเล็ก Microchlora sp.)
การเก็บเกี่ยวผลผลิต สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 2 ช่วง คือ ในฤดู เดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน และนอกฤดู เดือนมกราคม – เดือนเมษายน
ปัญหาสะตอไม่ติดฝัก คือ ไม่ควรปลูก 1-2 ต้น ควรปลูกมากๆ เพื่อให้เกสรตัวผู้และตัวเมีย มีความอุดมสมบรูณ์ เนื่องจากเป็นพืชผสมข้าม หรือการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตเข้ามาช่วยในการเพิ่มเกสรตัวผู้และตัวเมีย เมื่อติดฝักช่วงแรกมักจะเกิดฝักร่วง ต้องมีการทำให้ขั้วเหนียว ซึ่งใน 1 ช่อจะมีประมาณ 4-5 ฝัก
ลักษณะคุณภาพของสะตอ ดูลักษณะฝัก ความแน่นเนื้อ รสชาติ (ความหวาน และความมัน) กลิ่น ปริมาณผลผลิต
Category: พืชผัก ย-ฮ